รูปที่ 3 ใครเป็น Office syndrome หรือ เป็นไมเกรนอยู่นี่ เราแนะนำเลยครับ เอาน้ำมันไพลดี ๆ ซักขวดไปนวดคลึงบริเวรบ่า-คอ (ท้ายทอย) ครับ รับรองความเบาสบาย

น้ำมันไพล แพทย์แผนไทย และวิทยาศาสตร์

น้ำมันไพล แพทย์แผนไทย และวิทยาศาสตร์


หลาย ๆ คนปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออาจจะนึกการนวด และน้ำมันนวดก็มีหลากหลายตำรับด้วยกัน น้ำมันไพลจัดเป็นน้ำมันยอดนิยมที่หลาย ๆ คนนึกถึงเป็นอันดับแรก ดังนั้นบทความนี้เราจะดูกันว่าที่ไปที่มาเป็นอย่างไร ทำไมน้ำมันไพลจึงแก้ปวดได้ และขั้นตอนการทำน้ำมันไพลทำอย่างไร (ใครชอบฟัง Padcast สามารถเสพ สาระดีๆ ได้ที่ด้านล่างได้เลยครับ)

ไพล คือ

ไพล คือ พืชที่เป็นไม้ล้มลุกมีความสูงประมาณ 0.7 – 1.5 เมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดินครับ เจ้าพืชตัวนี้มีหลายชื่อด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับถิ่นที่อยู่ ถ้าไพลอยู่ในภาคเหนือก็จะรู้จักกันในชื่อ “ปูเลย” ครับ ดังนั้นเพื่อเป็นที่ให้เข้าใจกันในสังคมโลก นักวิทยาศาสตร์จึงได้ตั้งชื่อเอาไว้ว่า Zingiber cassumunar Roxb. ซึ่งจัดอยู่ในวงศ์ Zingiberacece นั่นเองครับ

รูปที่ 1 ไพล หรือ ปูเลย พืชที่โตโคตรง่าย แต่อุดมไปด้วยสรรพคุณยาที่เป็นบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อที่ดี
รูปที่ 1 ไพล หรือ ปูเลย พืชที่โตโคตรง่าย แต่อุดมไปด้วยสรรพคุณยาที่เป็นบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อที่ดี

 

เหง้าไพลถูกมนุษย์นำมาใช้ปรุงยามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นยาใช้ภายใน และภายนอกครับ ยกตัวอย่างยาที่ใช้ภายในก็เช่น ยาตำรับประสะไพล ที่สรรพคุณหลักในการบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ระดูมาไม่สม่ำเสมอ หรือมาน้อยกว่าปกติ เป็นต้น เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น ?

ตามหลักการแพทย์แผนไทย ยาตำรับประสะไพลประกอบด้วยตัวยารสร้อนฝาด เผ็ดร้อน และ ร้อนปร่า ทำให้ทั้งตำรับออกฤทธิ์ไปทางร้อน โดยมีตัวยารสฝาดช่วยสมาน คุมฤทธิ์ กำกับการทำงานของธาตุลม ทำให้มีการเคลื่อนไหวของธาตุลมดีขึ้น พอเหมาะ และสมดุล

และหลังจากที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายได้สุมหัวกันวิจัยเป็นเวลาหลายปีก็พบว่า ในเหง้าไพลมีสารสำคัญที่มีฤทธิ์ในการต้านอักเสบ ได้แก่

  1. Compound D
  2. Compound DMPBD [(E)-1-(3,4 dimethoxyphenyl) butadiene]
  3. Compound TMPBD [(E)-4-(2,4,5-trimethoxyphenyl) but-1,3-dien]
  4. Compound cassumunaquinones
  5. Compound cassumunins (สารที่เป็นสีเหลือง)
  6. อื่น ๆ

ซึ่งสารเหล่ามี Mechanism of action คือ ลดการทำงานของ “เอนไซม์ COX-II” หรือ “Cyclooxygenase II” ส่งผลให้การอักเสบ และอาการปวดลดลงนั่นเองครับ

 

รูปที่ 2 น้ำมันไพลขวดนี้ “พิเศษ” กว่าที่อื่นตรงที่จัดสร้างตามกระบวนการกรรมวิธีโดยอิง“องค์ภูมิความรู้ด้านอายุรเวท” กับ “ไสยเวท” ครับ
รูปที่ 2 น้ำมันไพลขวดนี้ “พิเศษ” กว่าที่อื่นตรงที่จัดสร้างตามกระบวนการกรรมวิธีโดยอิง“องค์ภูมิความรู้ด้านอายุรเวท” กับ “ไสยเวท” ครับ

น้ำมันไพล คือ

น้ำมันไพล คือ หนึ่งในหลาย ๆ ตำรับน้ำมันสมุนไพรที่นิยมใช้ในการรักษากลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อมากที่สุด ซึ่งปัจจุบันก็ได้ถูกบรรจุให้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 และบัญชียาพัฒนาจากสมุนไพร กลุ่มยารักษาอาการทางกล้ามเนื้อ และกระดูก (สำหรับใช้ภายนอก) ครับ

น้ำมันไพลมีอยู่หลายตำรับด้วยกัน ส่วนใหญ่จะไม่ใช้สมุนไพรเดี่ยวมาปรุงยา นั่นหมายความว่า “น้ำมันไพล” จะต้องใช้เครื่องยาอื่น ๆ ผสมลงไปด้วยครับ บางสูตรก็จะผสม ดอกกานพลู เถาเอ็นอ่อน ขิง ข่า และที่ขาดไม่ได้เลย คือ ขมิ้น ครับ

สรรพคุณยาของน้ำมันไพล

สรรพคุณของน้ำมันไพลหลัก ๆ คือ การบรรเทาอาการปวดตึงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น แก้ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก รองลงมาก็จะเป็นในส่วนของการแก้ฟกบวม ฟกช้ำ เป็นต้น บางท่านก็นำไปนวดแก้เส้นหย่อนในผู้ป่วยอัมพฤกษ์ – อัมพาตครับ

รูปที่ 3 ใครเป็น Office syndrome หรือ เป็นไมเกรนอยู่นี่ เราแนะนำเลยครับ เอาน้ำมันไพลดี ๆ ซักขวดไปนวดคลึงบริเวรบ่า-คอ (ท้ายทอย) ครับ รับรองความเบาสบาย
รูปที่ 3 ใครเป็น Office syndrome หรือ เป็นไมเกรนอยู่นี่ เราแนะนำเลยครับ เอาน้ำมันไพลดี ๆ ซักขวดไปนวดคลึงบริเวรบ่า-คอ (ท้ายทอย) ครับ รับรองความเบาสบาย

กลไกการออกฤทธิ์ของไพล

ตามผลการวิจัยระบุเอาไว้ว่า กลไกการออกฤทธิ์หลัก ๆ ของไพล คือ การลดการทำงานของ “เอนไซม์ COX-II” (COX-II inhibitor) ซึ่งเป็นเอนไซม์หลักในกระบวนการปวด และอักเสบนั่นเองครับ นอกจากนี้ “ไพล” ยังสามารถลดการองค์ประกอบของเซลล์ (Down-Regulation) ในการแสดงออกถึงยีน (gene) ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบของ “ข้อ” ในคนไข้โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) ได้อีกด้วย

 ตามหลักการแพทย์แผนไทย (คัมภีร์ธาตุวิวรณ์, คัมภีร์ธาตุวิภังค์, และคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย) ระบุเอาไว้ประมาณนี้ครับว่า ยารสฝาดนั้นซาบมังสัง (เนื้อ) และนหารู (เส้นเอ็น) ทั้งหลาย (สมานธาตุดิน)… ซึ่งรสฝาดจะซึมซาบธาตุดินที่มีการเคลื่อนไหวโดยธรรมชาติ คือ มีการยืดขยาย (อากาศธาตุเพิ่มขึ้น) และหดตัว (อากาศธาตุน้อยลง) อยู่เสมอ เช่น เนื้อ เส้นเอ็น ผิวหนัง เป็นต้น

เมื่อยารสฝาดซึมซาบเข้าไปแล้ว ธาตุดินจะเกิดความหยืดหยุ่นจากการกระทบความร้อน และมีความแข็งแรงมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เรามักจะเห็นการใช้ยารสฝาดเพื่อช่วยรักษาความบริบูรณ์ของธาตุดิน

 ไพล หรือ ปูเลย เป็นยารสฝาดร้อน จึงช่วยรักษาอาการฟกซ้ำเคล็ดขัดยอกของกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น… เราจะเห็นได้ว่า ไพล เป็นสมุนไพรบำรุงธาตุดินที่

  1. ไม่ให้ธาตุไฟกำเริบ (อาการช้ำ)
  2. ไม่ให้ธาตุลมกำเริบ (อาการฟก)
  3. ไม่ให้ธาตุน้ำกำเริบ (อาการบวม)
  4. และช่วยไม่ให้ธาตุลมเคลื่อนเวียนได้ ซึ่งลมดังกล่าวอาจจะเป็น ลมวาโยโผฏฐัพพะเป็นลมที่ทำหน้าที่รับรู้ความรู้สึกทางร่างกาย เช่น ความเจ็บปวด
รูปที่ 4 การหุง หรือ เจียว น้ำมันไพล ไม่ควรใช้ไฟที่อ่อนเกินไป เพราะจะทำให้สารสำคัญออกมาได้น้อย และ ไม่ควรใช้ไฟแรงเกินไปเนื่องจากจะทำให้ไหม้ และมีกลิ่นเหม็น น้ำมันที่ใช้ควรจะเป็นน้ำมันชนิดอิ่มตัว เพราะจะไม่ทำให้เกิด “โพลีเมอร์” ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดความหนืด และความเหม็นหืน
รูปที่ 4 การหุง หรือ เจียว น้ำมันไพล ไม่ควรใช้ไฟที่อ่อนเกินไป เพราะจะทำให้สารสำคัญออกมาได้น้อย และ ไม่ควรใช้ไฟแรงเกินไปเนื่องจากจะทำให้ไหม้ และมีกลิ่นเหม็น น้ำมันที่ใช้ควรจะเป็นน้ำมันชนิดอิ่มตัว เพราะจะไม่ทำให้เกิด “โพลีเมอร์” ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดความหนืด และความเหม็นหืน

วิธีการหุงน้ำมันไพล

การเจียว หรือ ทอด หรือ หุง น้ำมันไพล มีมาแต่โบราณกาล ซึ่งปัจจุบันเรามักคุ้นชินกับคำว่า “การสกัด” ซะมากกว่า โดยบทความจะขอแยกย่อยการทำออกเป็น 3 แบบหลัก ๆ ดังนี้

แบบอิงอายุรเวทผสมผสานไสยเวท

ข้อมูลจาก อ.อัมรินทร์ สุขสมัย แห่งสำนักสัชฌายะ รสายนเวท ได้กล่าวเอาไว้ว่า กรรมวิธีการหุงว่านยาแบบนี้จัดทำขึ้นเพื่ออำนวยผลทางด้านโอสถศาสตร์ และไสยศาสตร์ในคราวเดียวกัน หรือจะกล่าว คือ การทำน้ำมันไพลแบบผสมผสานระหว่าง “องค์ภูมิความรู้ด้านอายุรเวท” กับ “ไสยเวท” ครับ

น้ำมันมนต์สัตตปัฏฐาน สร้างจากตำรับการหุงน้ำมันไพลในตำราโอสถศาสตร์ การหุงว่าน เป็น Technical Term ที่คุ้นชินปากของคนสมัยโบราณ  ซึ่งนอกจากการนำว่านลงไปเจียวในน้ำมันอย่างที่เห็นแล้ว จะต้องผ่านกระบวนการหุงบ่มน้ำมัน เพื่อให้ได้คุณทางฤทธิ์ยา และความเชื่อทางวิทยาคม

ตัวว่านยาหลักคือ ไพล และขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย หุงเคี่ยวในน้ำมันจนน้ำมันในหัวไพลแตกตัว ผสมเข้าร่วมกับเครื่องยา “รสาย” ที่มีรสร้อนเย็น ส่งผลทางด้านการบำบัดรักษา

รูปที่ 5 ไพลเสก ๗ ชิ้น ขมิ้น ๗ ชิ้น ลงด้วยหัวใจสัตตโพชฌงค์ เครดิตรูปจาก อ.อัมรินทร์ สุขสมัย จากสำนักสัชฌายะ รสายนเวท
รูปที่ 5 ไพลเสก ๗ ชิ้น ขมิ้น ๗ ชิ้น ลงด้วยหัวใจสัตตโพชฌงค์
เครดิตรูปจาก อ.อัมรินทร์ สุขสมัย จากสำนักสัชฌายะ รสายนเวท

 

การเจียว หรือ การหุง น้ำมันไพลควรจะใช้กำลังไฟที่ไม่แรงเกินไป ไม่อ่อนเกินไป ทั้งนี้ภูมิปัญญาโบราณอย่างหนึ่งที่ต้องการบ่งชี้ความร้อน และความแรงของไฟ โดยสอนผ่านตำราความเชื่อในเรื่องของการเลือกใช้ไม้มงคล เป็นเชื้อฟืน เช่น ไม้ไผ่ ไม้กระท้อน ไม้ยม ไม้โมก เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไม้เหล่านี้ ประกอบด้วยชื่อนามมงคล แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นไม้เนื้ออ่อนทั้งสิ้น ซึ่งให้เชื้อไฟไม่ร้อนแรงมากนัก

รูปที่ 6 ขณะประกอบพิธีหุงน้ำมัน พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ ภายใต้ราชวัตรฉัตรธง ล้อมด้วยอักขระยันต์มนตรา เฉลวข่ามคง คุ้มครองฤทธิ์ว่านยาจากนักสิทธิ์วิทยาธร คนธรรพ์ และมนต์เพิ่มกำลังฤทธิ์ว่าน เครดิตรูปจาก อ.อัมรินทร์ สุขสมัย จากสำนักสัชฌายะ รสายนเวท
รูปที่ 6 ขณะประกอบพิธีหุงน้ำมัน พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ ภายใต้ราชวัตรฉัตรธง ล้อมด้วยอักขระยันต์มนตรา เฉลวข่ามคง คุ้มครองฤทธิ์ว่านยาจากนักสิทธิ์วิทยาธร คนธรรพ์ และมนต์เพิ่มกำลังฤทธิ์ว่าน
เครดิตรูปจาก อ.อัมรินทร์ สุขสมัย จากสำนักสัชฌายะ รสายนเวท

เมื่อหุงสำเร็จขึ้นเป็นน้ำมันมนต์ นำมาเสกสัมทับตามตำรับวิชา มนต์สัตตปัฏฐาน ตามคัมภีร์มหาปัฏฐาน  และเสกตามตำรับวิชามนต์สัพพาสี มหาไวยนาถ

น้ำมันมนต์ไพลแบบนี้สร้างตามตำรับโบราณครบถ้วนทั้งโอสถศาสตร์ และไสยเวทวิทยาคม สามารถบำบัดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นยึดติดขัด เลือดลมเดินไม่สะดวก หรือ นำทานวดเฟ้นบริเวณที่เจ็บป่วยจากลมเพลมพัด ถอนอาถรรพ์เสนียดภูตพรายเกาะรังควาญ

 

“นับเป็นภูมิปัญญาโบราณที่สอดแทรก สั่งสอนกรรมวิธีการกระทำการต่างๆ เพื่อให้สมบูรณ์ชัดเจนมากที่สุด”

 

แบบอิงตำราปรุงยาแผนโบราณทั่วไป

การเจียวนำมันไพลมีหลากหลายตำราด้วยกัน ในบทความนี้จะขอแจกอยู่ 2 สูตรแล้วกันครับ สูตรแรกจะมาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และสูตรที่สองจะมาจาก ม.มหิดล ครับ

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

ส่วนประกอบ
น้ำมันมะพร้าว 100 mL
ไพลแก่ อายุอย่างน้อย 1 ปี 100 g
ผักเสี้ยนผี 50 g
ดีปลีเชือก 10 g
ขมิ้นอ้อย 10 g
ดอกกานพลูป่น 10 g
น้ำมันยูคาลิปตัส 10 cc
น้ำมันระกำ 20-50 cc
พินเสน/การบูร/เมนทอล 30:30:90 g

 

การเตรียมส่วนผสมน้ำมัน
1 หั่นไพลขมิ้นอ้อย ผักเสี้ยนผี และดีปลีเชือกเป็นชิ้นบาง ๆ
2 นำไปทอดในน้ำมันมะพร้าว ทอดไฟอ่อน ๆ ประมาณ 0.5ชั่วโมง จนไพลกรอบ
3 ก่อนนำลงจากเตา ให้ใส่ดอกกานพลูลงไป ทิ้งไว้สักครู่
4 นำน้ำมันไพลที่ได้ กรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมันไพลสีเหลือง
การเตรียมส่วนผสมตัวทำให้ร้อน
1 นำพิมเสน การบูรและเมนทอล ผสมกันในขวดแก้วหรือภาชนะแก้วที่มีฝาปิด เขย่าให้ละลายเป็นน้ำใส ๆ หรือปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน (จนละลายเป็นน้ำเรียบร้อยแล้ว) และเติมน้ำมันยูคาลิปตัส
2 ผสมกับน้ำมันไพล คนให้เข้ากัน
3 นำไปชั่ง ตวง และบรรจุใส่ขวดที่เตรียมไว้ พร้อมใช้งานหรือจำหน่ายต่อไป

 

ม.มหิดล

ส่วนประกอบ
หัวไพลสด 2.0 kg
ขมิ้นชันสด 0.5 kg
น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว 1.0 kg
ดอกกานพลู 100 g
การบูร 100 g

 

วิธีทำ
1 หั่นไพลสด และขมิ้นชันสด ให้เป็นชิ้นบาง ๆ
2 เทน้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว ลงกระทะยกตั้งไฟ พอน้ำมันร้อนปานกลาง เอาไพลและขมิ้นชันลงทอดในน้ำมัน (เหมือนทอดกล้วยแขก) ทอดจนไพลและขมิ้นชันกรอบเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่ แล้วน้ำมันเป็นสีเหลืองใส (ระวังไหม้) ช้อนเอาชิ้นไพลและขมิ้นชันออก
3 ตำกานพลูให้ป่น นำลงทอดในน้ำมันต่อและลดไฟให้เหลือไฟอ่อน ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันที่อยู่ในกานพลูระเหยไป ทอดประมาณ 5 นาที กรองด้วยผ้าขาวบาง
4 พอน้ำมันอุ่น ๆ ผสมการบูรลงในน้ำมัน แล้วเทลงในภาชนะที่สามารถปิดฝาให้สนิทป้องกันการระเหยได้ แล้วเทบรรจุลงขวดเล็กปิดฝาให้แน่นเพื่อนำไปใช้ต่อไป

 

แบบประยุกต์วิทยาการสมัยใหม่

ปัจจุบันวิทยาศาสตร์การสกัดถูกนำมาประยุกต์ใช้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเทคนิค การกลั่นโดยการต้มด้วยน้ำ (water distillation) และ การกลั่นโดยใช้การผ่านของไอน้ำเข้าสู่ภาชนะที่มีไพลบรรจุอยู่ (steam distillation) เป็นต้น ซึ่งคงจะขอกล่าวโดยละเอียดในบทความต่อไปครับ (เนื้อหาเยอะมาก ผู้เขียนจะตุย)

บทสรุป

โดยสรุปแล้วน้ำมันไพลที่หุงด้วยกรรมวิธีใดก็สามารถนำมาใช้บรรเทาอาการปวด และต้านอักเสบได้ทั้งสิ้น ยิ่งนวดเป็นแล้วทาน้ำมันไพลตามแล้วล่ะก็ หายไวนักแล ส่วนใครโดยลมเพลมพัด หรือ ถูกไสย ต้องเสนียด ก็ลองหาน้ำมันไพลที่หุงตามกรรมวิธีผสมผสานไสยเวทมาใช้ได้ครับ

 

เขียน และเรียบเรียง โดย

พท.ป. ธาร์มันษ์ ตลับเพชร์สกุล

อ้างอิง

  1. https://www.opsmoac.go.th/surin-local_wisdom-preview-422891791841
  2. https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/346/ยาตำรับประสะไพล-ปวดประจำเดือน/
  3. Chaiwongsa R, Ongchai S, Boonsing P, Kongtawelert P, Panthong A, Reutrakul V. Active compound of Zingiber cassumunar Roxb. down-regulates the expression of genes involved in joint erosion in a human synovial fibroblast cell line. Afr J Tradit Complement Altern Med. 2012 Oct 1;10(1):40-8. doi: 4314/ajtcam.v10i1.7. PMID: 24082324; PMCID: PMC3746356.
  4. หนังสือกลไกการออกฤทธิ์รสยา 10 จากคัมภีร์แพทย์แผนไทยและพระไตรปิฎก, พท.ป.ธรรพันธ์ บางขันธ์, 2564
  5. https://www.facebook.com/satchaya56/videos/823711935018701
  6. เอกสารบริการวิชาการ การต่อยอดน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเป็นผลิตภัณฑ์ “น้ำมันเหลืองสมุนไพร”, คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

One thought on “น้ำมันไพล แพทย์แผนไทย และวิทยาศาสตร์

  1. Pingback: หัตถการการรักษาของแพทย์แผนไทย - พรหมวิหารคลินิก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *